แนะนำมือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท

ถ้าทุกวันนี้เราต้องมารอเล่นเกมบนแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็คงไม่สามารถตอบสนองเงื่อนไขของการเล่นเกมที่เราต้องใช้เวลาดูแลอัปเวลของตัวละครอย่างเต็มที่ได้

แต่ปัจจุบันเราสามารถเล่นเกมบนมือถือได้ในคุณสมบัติที่ไม่ได้ด้อยกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสักตัวเลย เผลอ ๆ บางรุ่นยังให้คุณสมบัติสุดล้ำเหนือกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไปเสียอีก ทั้งยังช่วยให้เกมเมอร์เล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่สะดุด คราวนี้เราจึงจะมาแนะนำมือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 แบบคุ้ม ๆ จาก Redmi Note 10, LG G6 และ Rog Phone 3 กันแบบจุใจไปเลย

การเลือกมือถือเล่นเกมต้องดูอะไรบ้าง

การเลือกมือถือเล่นเกมในยุค 2022 นี้นั้นไม่เหมือนกับการเลือกมือถือเพื่อใช้งานทั่วไปแบบเดิมแล้ว และใครหลายคนก็ไม่สนด้วยว่าจะมีฟีเจอร์กล้องเด็ด ๆ อะไรหรือเปล่า เพราะสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกก็คือ พลังการประมวลผลของตัวเครื่อง ที่จะช่วยให้การสตรีมเกมลื่น ภาพไม่แตก ไม่ตัด ไม่กระตุก สามารถตอบสนองกับเกมได้อย่างทันท่วงที

การแสดงผลของหน้าจอที่คมชัด สีสันสดใสสมจริง พลังเสียงสมูธลื่นเป็นธรรมชาติ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกมเมอร์ใส่ใจ เพราะทั้งการแสดงภาพและเสียงจะช่วยให้อินกับเกมได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมที่ขึ้นชื่อว่ามีฉากภาพสวย ๆ การใช้มือถือที่แสดงผลไม่ดีก็เท่ากับว่าเกมเมอร์จะได้อรรถรสตรงนี้ดรอปลงไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ การเลือกมือถือเล่นเกมที่มีขนาดเหมาะมือ สีสันสวยงามถูกใจ ก็ยังเป็นออปชั่นเสริมที่ทำได้อย่างไม่ผิดกติกาเลย และคราวนี้เราจะไปต่อกันที่มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 ที่เราเลือกมารีวิวกันในคราวนี้

1. Redmi Note 10 โทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกม

Redmi Note 10 เป็นสมาร์ทโฟนไซส์กำลังเหมาะมือที่ 160.5 × 74.5 × 8.3 มม. น้ำหนักเบาเพียง 178.8 กรัม ที่มาพร้อมกับพลังการประมวลผลและแบตเตอรี่สุดอึด พร้อมสำหรับการเล่นเกมแบบพกพาไปได้ทุกที่เล่นได้ทุกเวลา โดยมีจุดเด่นที่จอภาพ Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ขนาดใหญ่ถึง 6.43 นิ้ว ให้ภาพการแสดงผลแบบคมชัดสุด ๆ แม้ภาพสีมืดที่ดูยาก ซึ่งถือว่าคุณภาพสูงและคมชัดเกินราคาที่ให้ไว้มากทีเดียว

ในส่วนพลังการประมวลผล Redmi Note 10 มาพร้อมชิป Qualcomm Snapdragon 678 Octa Core 2.2 MHz โดยมีการ์ดจอ Adreno 612 เติมมาด้วย ตัวเครื่องมีหน่วยความจำให้เลือก 4/6GB ความจุ 64/128GB ซึ่งนับว่าเพียงพอและรองรับการสตรีมเกมได้ดีในระดับหนึ่ง แต่จุดสำคัญคือสมาร์ทโฟนตัวนี้มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 33W ให้เล่นเกมได้แบบยิงยาวไม่มีสะดุดกันไปเลย

นอกจากนี้ Redmi Note 10 ยังมีฟังก์ชั่น Game Turbo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องสำหรับการสตรีมเกมโดยเฉพาะ คือเมื่อเข้าสู่โหมดนี้ตัวเครื่องจะทำการจัดลำดับการเล่นเกมให้อยู่เหนือฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ ทำให้ตัวเครื่องสามารถโหลดศักยภาพของตัวเครื่องมาไว้ที่เกมได้อย่างคุ้มค่าในแบบที่ทำให้คุณสามารถสตรีม Rov ได้แบบสบาย ๆ ทั้งหมดนี้ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาทเท่านั้น

2. LG G6 มือถือสำหรับเล่นเกม

LG G6 เป็นมือถือเล่นเกมไซส์บางลงมาหน่อยดีไซน์สวยงามด้วยขอบจอแคบเพื่อให้มีพื้นที่หน้าจอ FullVision กว้างถึง 5.7 นิ้ว ที่ความละเอียด 2880 x 1440 พิกเซล รองรับการแสดงผลทั้งแบบ Dolby Vision และ HDR 10 น้ำหนักทั้งตัวเครื่องเพียง 163 กรัม ทำให้ถือได้ด้วยมือเดียวแบบเบา ๆ ขนาดตัวเครื่องทั้งหมด 148.9 x 71.9 x 7.9 มิลลิเมตร

นอกจากตัวเครื่องที่ดีไซน์สวยดูโฉบเฉี่ยวแล้ว LG G6 ยังมาพร้อมพลังประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 821 Quad-core รันบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 เสริมด้วย GPU Adreno 530 บนหน่วยความจำ 4GB (RAM) และความจุตัวเครื่อง 64GB เพิ่มได้สูงสุด 2TB จาก microSD card ซึ่งแม้จะดูเบาไปหน่อยสำหรับมือถือเล่นเกม แต่ก็ยังสามารถเล่น ROV แบบปิดบางฟังก์ชั่นแล้วยังแสดงผลได้ลื่นไหลอย่างไม่เป็นปัญหา

สำหรับตัวแบตเตอรรี่ที่ให้มาพร้อมตัวเครื่องเป็นรูปแบบ Standard Battery ขนาด 3,300 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ซึ่งถือว่าเป็นสเป็กที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับราคาสุดคุ้ม ซึ่งหากใครที่สนใจตัวนี้ลองหาแบตสำรองเล็ก ๆ เผื่อไว้ก็ไม่เสียหาย

3. ROG Phone 3 มือถือที่เหมาะกับการเล่นเกม

มาถึงมือถือที่เคลมไว้ว่าออกแบบมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะกับ Rog Phone 3 ที่ถ้าเรามองแค่ชื่อก็อาจไม่คุ้นถึงขั้นไม่รู้จัก แต่หากจะบอกว่ามือถือเล่นเกมตัวนี้ผลิตขึ้นโดยบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำอย่าง ASUS ก็น่าจะพอการันตีคุณภาพอุปกรณ์เล่นเกมของสายเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ใช่เพียงแค่การอัดสเปคแรง ๆ ใส่ลงมาเท่านั้น แต่ยังมีการดีไซน์ฟีเจอร์อื่น ๆ มารองรับความต้องการของเกมเมอร์อย่างแท้จริง ด้วยตัวเครื่องขนาด 171 × 78 × 9.85 มม. และน้ำหนัก 240 กรัม ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับการถือด้วยมือเดียว และการยกเพื่อเล่นเกมเป็นเวลานาน

ตัวหน้าจอ ROG Phone 3 มาด้วยขนาด 6.59 นิ้ว ผลิตจากกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 6 ปกป้องตัวเครื่องแบบแข็งแรงสุด ๆ แสดงผลแบบ AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ให้ภาพคมชัด สีสันสดใสสมจริง และยังให้ภาพคมชัดแม้ภาพสีมืด มาพร้อมกับระบบเสียงลำโพงสเตอริโอคู่แบบ DTS X Sound ให้นักเล่นเกมได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์การเล่นเกมแบบถึงใจ

ทางฝั่งของพลังประมวลผล มือถือเล่นเกมตัวนี้ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 865 Plus Octa Core 3.1 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ ROG UI based on Android 10.0 เสริมแรงด้วย GPU Adreno 650 และ RAM สูงถึง 12GB ส่วนความจุของตัวเครื่องก็ให้มาเลยเน้น ๆ ที่ ROM 512GB นับว่าเหลือ ๆ สำหรับการสตรีมเกมแม้จะขึ้นชื่อว่าเกมไหนหนักเครื่องเท่าไหร่ ROG Phone 3 ถือว่าเอาอยู่ ตัวแบตเตอรี่ที่มากับตัวเครื่องยังให้มาสูงถึง 6000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W รับรองว่าถูกใจคอเกมแบบสุด ๆ

ที่ขาดไม่ได้เลยคือการออกแบบเทคโนโลยีรองรับการโหลดหนักการเล่นเกมที่สมบุสมบัน โดย ROG Phone 3 มีระบบ GameCool 3 ช่วยระบายความร้อนไม่ให้สะสมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งของตัวเครื่องจนอาจเป็นอันตราย และยังมีฟีเจอร์ Game Genie ที่ช่วยให้ปรับแต่งการเล่นเกมด้วยการเคลียร์ทรัพยากรของเครื่องให้มาสนับสนุนการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ นับว่าเป็นทุกอย่างแล้วสำหรับคอเกมกับมือถือตัวนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับโทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ นับว่าจัดเต็มสำหรับคอเกมให้สามารถสตรีมเกมได้แบบไม่มีสะดุดกับราคาที่คุ้มค่าแบบโดนใจกันไปเลย

Shopee 2.2 Cashback Sale คืน คอยน์ คุ้ม ช้อปรับเงินคืนสุดคุ้มค่าไปกับขบวนสินค้าจากแบรนด์ดังมากมาย พบกับโปรโมชั่นโค้ดรับเงินคืน 15% สินค้าลดราคาพิเศษ Flash Sale 9.- พร้อมให้คุณมาเก็บโค้ดส่งฟรี* ขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปพร้อมกันได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. – 1 ก.พ. นี้เท่านั้นที่ Shopee Thailand