รัฐ-เอกชน ถกรับมือ มะกัน ขึ้นภาษีไทยวันนี้ เล็งซื้อของสหรัฐเพิ่ม ผวาเสียหาย 2.8 แสนล้าน ขึ้นบัญชีดำสินค้า 49 รายการเสี่ยงสวมสิทธิ
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา นำตัวแทนหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้บริหารภาครัฐที่เกี่ยวพัน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงข่าว เพื่อสื่อสารบวกกับสร้างความเข้าใจแก่ภาคส่วนที่เชื่อมโยงภายในประเทศต่อการกำหนดแนวทางเตรียมความพร้อมของไทยต่อนโยบายการค้าสหรัฐ เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐ ผ่านการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยร่วมกับสหรัฐ ในมิติต่างๆ
นายวุฒิไกรกล่าวว่า นายกฯแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา จากการติดตามสถานการณ์พบว่า หลายประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐได้ยื่นข้อเสนอการเจรจา รวมมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงขณะนี้สหรัฐยังไม่ได้ตอบรับ รวมทั้งทุกประเทศทั่วโลก คงได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษี สะท้อนว่าสหรัฐเน้นการเพิ่มรายได้เข้ารัฐเป็นสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการขาดดุลการค้าที่มีสูงมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี คาดว่ามาตรการภาษีของสหรัฐจะชัดเจนมากขึ้นหลังการประกาศ Reciprocal Tariff ของสหรัฐในวันที่ 2 เมษายน
นายวุฒิไกรกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คณะทำงานเตรียมประชุม หมายรวมไปถึงทำแผนการเจรจาเชิงรุกร่วมกับรัฐกับภาคเอกชนไว้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการด้านภาษี 4 ด้าน คาดว่าสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีไทยเพิ่มอีก 3 รายการ ประกอบด้วย สินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ อาจปรับภาษีนำเข้าเป็น 25% ผลิตภัณฑ์ยา และไม้ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์จากป่า และก็ไทยยังมีแนวโน้มถูกเก็บภาษีตอบโต้โดยสหรัฐ อาจจะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าให้เท่าที่ไทยเรียกเก็บภาษีสินค้า
นำเข้าจากสหรัฐด้วย จากขึ้นภาษีรอบแรกไทยได้รับผลกระทบไปแล้ว เช่นนั้นแล้วคือ สินค้ากลุ่มเหล็กรวมทั้งอะลูมิเนียม ปัจจุบันไทยเก็บภาษีสินค้าเกษตร ร่วมกับอุตสาหกรรม สูงกว่าสหรัฐ 11% หากสหรัฐปรับขึ้นภาษีให้เท่าไทย คาดว่าทำให้ไทยเสียหาย 7-8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.8แสนล้านบาท)
“ไทยอาจจะใช้แนวทางในการปรับลดภาษีนำเข้า หมายรวมไปถึงเพิ่มปริมาณนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าให้สหรัฐ” นายวุฒิไกรกล่าวและว่าอย่างไรก็ตาม สหรัฐมีข้อกังวลในเรื่องการย้ายฐานการผลิตบางประเทศมายังไทย ทำให้เกิดการสวมสิทธิสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ โดยขณะนี้ได้สั่งให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งไขปัญหา ด้วยการขึ้นบัญชีสินค้าที่เสี่ยงสวมสิทธิไทยแล้ว 49 รายการ โดยเฉพาะเหล็ก ผลิตภัณฑ์จากจีน
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ กล่าวว่า ไทยควรพิจารณาเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหาร และพลังงาน ลดความกดดันด้านดุลการค้า รวมถึงพิจารณาปฏิรูปโควต้าภาษีนำเข้าของไทยกับสหรัฐ ให้มีจุดยืนที่เป็นธรรม รวมทั้งสมดุลในการเจรจากับสหรัฐ อีกทั้งหอการค้ากังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐกับทั่วโลก อาจทำให้มีสินค้าต่างประเทศทะลักเข้าสู่ตลาดอาเซียน รวมถึงไทย โดยหอการค้าเสนอให้รัฐบาลไทยพิจารณาการนำเข้าสินค้ากลุ่มต่างๆ ที่จะไม่กระทบต่อคู่ค้า ร่วมด้วยเกษตรกรภายในประเทศ
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงยืนยันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะดำเนินมาตรการเก็บภาษีต่างตอบแทนในวันที่ 2 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ตามแผนการที่วางไว้ ซึ่งถูกเรียกขานว่า วันปลดปล่อย (Liberation Day) ซึ่งจะมีผลในทันที ขณะที่มาตรการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากทั่วโลกในอัตรา 25% จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เมษายน พร้อมกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีมีทีมที่ปรึกษาที่มีความสามารถ ซึ่งได้ศึกษาปัญหานี้มาอย่างยาวนาน ทางรัฐบาลมุ่งมั่นในการนำยุคทองของสหรัฐกลับคืนมา
เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวดี ๆ จากทางเรา ที่เดียว คนเขียนบล็อก รวมเนื้อหาสำหรับคนที่สนใจในการเขียนบล็อก ทำเว็บ