ครูจวง ชี้ ระเบียบกระทรวงศึกษาฯยกเลิกทรงผมนักเรียน แต่แนวนโยบายเปิดช่อง สถานศึกษากำหนดลักษณะทรงผมได้ตามบริบท-ความเหมาะสม หลัง โฆษกศธ. ระบุ “ปิดฉากทรงผมนักเรียน ไม่ยึดติดระเบียบนานแล้ว” จี้ ออกกฎ สถานศึกษาไม่มีอำนาจตัดผมนักเรียน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 นายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึง กรณีที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า “ปิดฉากทรงผมนักเรียน ไม่ยึดติดระเบียบนานแล้ว”
โดยนายปารมี กล่าวว่า ตนขอเห็นแย้ง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ยังมีข่าวครูกล้อนผมนักเรียนให้เห็นโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะมีระเบียบกระทรวงศึกษายกเลิกการไว้ทรงผมของนักเรียน ที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566 รวมทั้งต่อมากระทรวงศึกษายังออกแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนรวมถึงนักศึกษาของสถานศึกษา แต่ข้อความสำคัญในแนวนโยบายนี้ก็หมายความ “สถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามบริบทแล้วก็ความเหมาะสม” จึงทำให้ในทางปฏิบัติจริง หลายๆโรงเรียนก็ยังกล้อนผมเด็กกันอยู่
“ดิฉันจึงขอส่งเสียงดังๆ ไปยังกระทรวงศึกษาธิการว่า ถ้าเกิดท่านให้ความสำคัญกับสิทธิผู้เรียนอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ ขอให้กระทรวงศึกษาเร่งออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่เป็นมาตรฐานกลางของโรงเรียนทั่วประเทศว่า สถานศึกษาไม่มีอำนาจตัดผมนักเรียนไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมทั้งต้องออกกฎกระทรวงว่าด้วยวิธีการรับฟังความเห็นของนักเรียนที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนอย่างแท้จริง จึงจะปิดฉากทรงผมนักเรียนได้อย่างแท้จริง ขอให้ท่านเร่งทำ” นายปารมีกล่าว
เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ จากทางเรา ที่เดียว คนเขียนบล็อก รวมเนื้อหาสำหรับคนที่สนใจในการเขียนบล็อก ทำเว็บ