โจ๋ “2.7ล้านคน” เฮได้เงินหมื่น อายุ 16-20 ปี รับไตรมาส 2 ปีนี้
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีประกอบกับรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมพิจารณา โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 โดยเรียกว่าเฟสที่ 1 เนื่องจากเป็นครั้งแรกใช้ระบบดิจิทัลวอลเล็ต จะจ่ายในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 ให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้แล้ว มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี อยู่ในกลุ่มวัยเรียน เนื่องจากสามารถช่วยพ่อแม่ได้
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจการทุจริตตามข้อกังวลของนายกฯ เนื่องจากในอดีตมีข้อผิดพลาดการแจกเงินค่อนข้างมาก ร่วมด้วยให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการสามารถตรวจสอบได้ สำหรับกลุ่มอายุ 21-59 ปี จะต้องขอไปดูกันอีกทีว่าจะต้องแบ่งอย่างไร
“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็น เฟส 1 มีข้อดีเยอะ ระบบอาจจะลำบากในการสร้าง แต่ถ้าเกิดเทียบกับการให้เงินอุดหนุนอื่นๆ ดิจิทัลวอลเล็ตสามารถกำหนดการใช้จ่ายได้ทั้งเรื่องร้านค้า พื้นที่ ทำให้การเติมเงินสู่ระบบเป็นไปตามต้องการ ทำให้เรารู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศนี้เป็นอย่างไร นำไปวางแผนอื่นๆ ได้อีก ถือเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล” นายพิชัยกล่าว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มอายุตั้งแต่ 16-20 ปีครั้งนี้ รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิมออก เช่น ตัดรายการสินค้าต้องห้าม หรือ Negative List ออกทั้งหมด เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น โดยเปิดให้ใช้จ่ายค่าเทอม ค่าน้ำ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ รวมทั้งยังเปิดให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถถอนเงินสดออกมาได้อีกด้วย ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มที่เสียภาษี ส่วนกรอบระยะในการใช้ยังคงเป็นระดับอําเภออยู่
“สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการนั้น ขั้นตอนต่อจากนี้ จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ ก่อนจะเริ่มต้นโครงการเร็วที่สุด จะเป็นดังเช่นไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2568” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า กลุ่มอายุตั้งแต่ 16-20 ปีที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีจำนวน 2.7 ล้านคน ใช้งบประมาณ 27,000 ล้านบาท กลุ่มนี้มี digital adoption สูง มีความตื่นรู้ทางด้านเทคโนโลยีสูงและก็ความสามารถในการใช้จ่ายในรูปแบบนี้สูงกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มต่อไปยืนยันว่ารัฐบาลได้เตรียมเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ 1.5 แสนล้านบาท ในช่วงเวลาเหมาะสม ต้องใช้จ่ายในไตรมาส 3
“เรามีช่วงต้องใช้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องของงบประมาณ เพราะฉะนั้นก็จะมีกระสุนเตรียมไว้เพียงพอ รัฐบาลต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่า ทุกบาท ทุกสตางค์ ในทุกเวลาที่เหมาะ” นายเผ่าภูมิกล่าว
ที่กรมสรรพสามิต นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากมติที่ประชุมบอร์ด เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการโอนเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 3 สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ลงทะเบียนขอรับสิทธิผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐไว้ 2.7 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ยืนยันเป็นการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก โดยกำหนดเงื่อนไขให้ใช้จ่ายในเขต อ.ตามที่อยู่ทะเบียนบ้านร่วมกับกำหนดร้านค้าที่สามารถใช้จ่ายได้ ต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็กหมายรวมไปถึงจำกัดร้านค้าที่เข้าร่วม อาทิ ร้านจำหน่ายสุรา ร้านจำหน่ายบุหรี่ สถานีบริการน้ำมัน เข้าร่วมโครงการ แทนการทำรายชื่อสินค้าห้ามจำหน่าย
“กลุ่มที่เหลืออายุ 21-59 ปี ยืนยันจะมีแจกเงินดิจิทัลแน่นอน แต่อยู่ในกระบวนการพิจารณาในระยะต่อไป หากตัดกลุ่มที่มีการโอนเงินไปตั้งเฟส 1-3 แล้ว จะเหลือผู้ลงทะเบียนในแอพพ์ทางรัฐอีกราว 20 ล้านคน จะต้องคัดกรองอีกครั้งว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิเท่าไหร่ ส่วนงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น มีอยู่อีกประมาณ 1.2 แสนล้านบาทจะต้องใช้ภายในเดือนกันยายน 2568” นายเผ่าภูมิ กล่าว
เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ จากเรา ที่เดียว คนเขียนบล็อก รวมเนื้อหาสำหรับคนที่สนใจในการเขียนบล็อก ทำเว็บ