น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งนี่ก็แปลว่าหลายคนเข้าใจผิดว่า มันเป็นยารักษาโรค แล้วก็ใช้ลดความอ้วนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ บทความในความเป็นจริง เช่นนั้นแล้วคือเป็นเช่นนั้น จริงหรือ
เรามาว่ากันด้วยเรื่อง น้ำมันมะพร้าว ถ้าเกิดว่าเป็นชนิดบริสุทธิ์ จะเรียกว่า Virgin coconut oil จะได้จากการ สกัดจากเนื้อมะพร้าวสด ด้วยกระบวนการที่ ไม่ใช้ความร้อน หรือสารเคมีใด ๆ ตามที่คนทั่วไปเข้าใจกันความหมาย การสกัดเย็น นั่นแหละ ซึ่งพูดได้ว่าก็นิยมกันมากมาย ในสายสุขภาพ ถ้าเกิดว่าใครไม่เคยกิน อาจเชยร่วมด้วยคุยกับเขา ไม่รู้เรื่อง
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนจะมาว่ากันด้วยเรื่องคุณประโยชน์ของเจ้านี่ ลองมาฟังข้อเสียกันก่อน ว่า มันดีจริงหรือ โดยจากปากคำของ หมอผู้เชี่ยวชาญด้าน โภชนาการ คุณหมอณิชา สมหล่อ จากฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาชี้แจงว่า
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เช่นนั้นแล้วคืออะไร
ข้อมูลของ อ.นพ.วิทวัส แนววงศ์ ให้คำจำกัดความของ น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นว่า เป็นน้ำมันที่ได้จาก การสกัด แยกน้ำมัน ออกจาก เนื้อมะพร้าว โดย ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว ที่มี วางจำหน่ายในท้องตลาด ประกอบกับได้รับความสนใจ จากกลุ่มผู้รักสุขภาพ นั้นจะเป็นแบบ Virgin Coconut Oil ซึ่งก็กล่าวได้ว่าในตัวน้ำมันมะพร้าวนี้ จะมี สาร ร่วมกับองค์ประกอบหลัก อันได้แก่
- ไขมันอิ่มตัว 90% รวมทั้งเป็น ไขมันชนิดไม่ดี จึงควร รับประทาน ในปริมาณที่ จำกัด ไม่ควรเกินร้อยละ 7 ของพลังงานรวม ในแต่ละวัน
- กรดลอริก (Lauric acid) เป็นไขมันโมเลกุลปานกลาง รวมไปถึงยังไม่มีหลักฐานว่า ถูกเผาผลาญได้ดีกว่า หรือ สะสมในเนื้อเยื่อไขมัน น้อยกว่า ไขมันตัวอื่น
แล้วก็จาก ผลการศึกษาวิจัย ของหลายหน่วยงาน เมื่อเปรียบเทียบ ผลต่อสุขภาพ ระหว่าง น้ำมันมะพร้าว กับ น้ำมันชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก รวมทั้งน้ำมันดอกคำฝอย พบว่า
- น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันเลวชนิด LDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 10 มก./ดล.
- น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันดีชนิด HDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 4 มก./ดล.
- น้ำมันมะพร้าวไม่ทำให้น้ำหนักตัวรวมทั้งค่า BMI เปลี่ยนแปลง
ประกอบกับการที่ ไขมันเลว (LDL-C) สูงขึ้น อาจไปเพิ่มโอกาส โรคหัวใจ รวมไปถึง โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ได้สูง การรับประทานจึงควรได้รับ คำแนะนำจากแพทย์ รวมไปถึง ไม่ควรรับประทานเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือ เพื่อลดไขมันในเลือด เพราะสิ่งเหล่านี้ หาได้จากการ ออกกำลังกาย จะดีที่สุด
แม้ว่าในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ได้ถูกนำมาประชาสัมพันธ์ ให้เกิดความเข้าใจ คลาดเคลื่อน ถึงประโยชน์ด้านสุขภาพ ตั้งแต่ ประสิทธิภาพในการลดคอลเลสเตอร์รอล ลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ไปจนถึง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หมายรวมไปถึงชะลอความแก่ ซึ่งพูดได้ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่นั้น เป็นการหวังผลทางธุรกิจ แล้วก็ไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ ที่พิสูจน์ชัดเจน หรือสนับสนุนให้เป็นจริง
ที่หนักสุดถึงขนาด มีการแนะนำให้ใช้ น้ำมันมะพร้าว กลั้วคอเช้า-เย็น เพื่อฆ่าเชื้อโรคในปาก หรือใช้ ต้านเชื้อ HIV ประกอบกับ ป้องกันมะเร็ง สิ่งเหล่านี้เป็นการ โฆษณา เกินความจริง ผลเสียของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ประโยชน์ที่ได้รับจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจริง
- ช่วยป้องกัน หรือลดการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด
บวกกับจากการศึกษาใน สัตว์ทดลอง ที่ไม่ใช่แค่การดู เฉพาะระดับคอเลสเทอรอลในเลือด พบว่า ในกระต่ายที่ได้รับอาหารไขมันสูงจากน้ำมันมะพร้าว 10% มีไขมันอุดตันในเส้นเลือดแดง สูงกว่ากลุ่มใช้น้ำมันมะพร้าว 3% เป็น 2 เท่า (วารสาร Atherosclerosis. 2010) ส่วนการศึกษาในคน ปัจจุบันยังไม่มี - ช่วยลดน้ำหนัก ได้จริงหรือ
วารสาร lipids 2009 ที่ลงเผยแพร่ในประเทศบราซิล ตัวอย่างกลุ่มผู้หญิง 40 คน ที่มีภาวะ อ้วนลงพุง อายุ 20-40 ปี รับประทานน้ำมันมะพร้าว 30 มล.ต่อวัน บวกกับ กลุ่มที่รับประทานน้ำมันถั่วเหลือง 30 มล.ต่อวัน ร่วมกับ การรับประทานอาหารพลังงานต่ำชนิดอื่น รวมทั้ง มีการออกกำลังกาย โดยการเดิน 200 นาทีต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า ทั้งสองกลุ่ม ลดน้ำหนัก และมี ดัชนีมวลกาย รวมถึง เส้นรอบพุง ลดลงได้ แทบไม่ต่างกัน - ช่วยเกี่ยวกับผู้ป่วย โรคสมองฝ่อ หรืออัลไซเมอร์
มีรายงานจาก ผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า Axona (AC-1202) ของอเมริกา ในปี 2009, 2011 บวกกับ 2012 พบว่า ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง จำนวน 152 ราย เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ AC-1202 ประมาณ 10-20 กรัมต่อวัน โดยใช้ต่อเนื่องไป 90 วัน พบว่า ในวันที่ 45 กลุ่มที่ได้รับน้ำมันมะพร้าว มีระดับการทดสอบดีขึ้น แต่ในวันที่ 90 คะแนนกลับมาเท่ากันในกลุ่มที่ได้รวมทั้งไม่ได้น้ำมันมะพร้าว รวมทั้งวันที่ 104 หลังจากหยุดการกินน้ำมันมะพร้าวไปแล้ว พบว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่ไม่มียีนร้ายของสมองฝ่อ มีความจำให้ดีขึ้นที่การทดลองทุกระยะ
แต่อย่างไรก็ตาม ประโยชน์จาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีความสำคัญอยู่ที่ ชนิดที่เป็น กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง ไม่ใช่ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทราบส่วนประกอบ ทั้งนี้ ผู้ที่มีภาวะ โรคหัวใจ ร่วมด้วยหลอดเลือด หรือโรคอ้วน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวนั้น การรับประทาน ไม่ว่าจะใช้เพื่อหวังผลใดก็ตาม ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ จะดีที่สุด
แต่สำหรับ ผู้ที่มีภาวะร่างกายปกติ การกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จะเพื่อ ลดความอ้วน หรือเพื่อเหตุผลอื่น ทั้งคำแนะนำให้ กินก่อนนอน หรือในตอนเช้า อาจต้องศึกษาถึง ผลเสียของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ให้เข้าใจ เพื่อที่จะได้มี สุขภาพที่ดี อย่างยาวนาน
ผลเสียที่เกิดขึ้น หากรับประทานเกินความจำเป็น
การที่ร่างกายได้รับ น้ำมันมะพร้าว เกินความจำเป็น จะส่งผลเสียต่อร่างกาย หลายอย่าง เช่น ระดับคอลเลสเตอร์รอลที่สูงขึ้น จากกรดไขมันอิ่มตัว (saturatedfat) มีปริมาณสูง รวมทั้งนำไปสู่ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด รวมไปถึง ทำให้มี ไขมันพอกตับ รวมทั้ง น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดัน หรือ โรคไต
น้ำมันมะพร้าวนั้น มีคุณสมบัติบางอย่าง คล้าย น้ำมันมะกอก เพราะมีจุดเดือดต่ำ (low smoke point) ไม่เหมาะในการนำมา ประกอบอาหาร จำพวก ผัด ทอด แต่เหมาะจะใช้ใน การทำน้ำสลัด มากกว่า
ไม่แนะนำให้ กินก่อนเข้านอน เนื่องจากมีพลังงานสูง ร่างกายจะสะสมพลังงานในตอนหลับ ทำให้เกิดภาวะ อ้วน ได้ง่าย
ในปริมาณที่จำเป็น ควรแบ่งมื้อในการรับประทาน หากร่างกายได้รับ ไขมันและน้ำมัน จากอาหารชนิดอื่น ก็ควร ลดปริมาณ ในการรับประทานผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ลง
ควรออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับ การกินอาหารที่เหมาะสม รวมไปถึงเสริมด้วย น้ำมันมะพร้าว ในบางกรณี ร่วมด้วยไม่ควร กินควบคู่กับอาหาร ที่มีฤทธิ์ร้อน
อ้างอิง ข้อมูลเกี่ยวกับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จาก
- www.swenth.com
- www.bpl.co.th
- thairath.co.th/content/503397
- chulalongkornhospital.go.th
ติดตาม ข่าวใหม่ล่าสุด คนเขียนบล็อก ได้จากเราที่นี่