พระมหาไพรวัลย์ – พระมหาสมปอง ใครแน่กว่ากัน

มาแรงเอาไม่อยู่จริงๆ กับเทรนพระไลฟ์สดจากกุฎิที่แท้ทรู โดยสองมหาพระนักพูด ในยุคนี้อะไรๆ ก็ต้องออนไลน์ ต้องโซเชียลกัน ไม่เว้นแม้แต่การเผยแผ่ศาสนาและพระธรรม บุดด้าอยู่ท่านจะรับได้ไหม ซึ่งก็น่าจะไม่มีปัญหาหรอกมั้ง

ใครจะไปรู้ เราเกิดไม่ทัน พวกที่บอกว่าดีหรือไม่ดี มันก็ตัดสินไม่ได้ มโนเอาเองทั้งนั้น

ทีนี้อยากวัดหน่อยว่า สองมหานักพูดนี้ ใครดังกว่ากันโดยเอาจำนวนยอดไลค์และยอดติดตามในโซเชียลนี่เป็นตัววัดดิบๆ กันไปเลย

วัดความดังจากยอดไลค์ facebook พระมหาไพรวัลย์ vs พระมหาสมปอง

ความดังของ พระมหาไพรวัลย์ ถ้าเอาจากแฟนเพจ paivan01 จากเฟสบุ๊คนี้ของพระมหาไพรวัลย์จะได้ 1,320,230 คน ถูกใจ และ 1,851,114 คนติดตาม

ความดังของ พระมหาสมปอง ถ้าวัดเอาจากจำนวนคนถูกใจและผู้ติดตามพระมหาสมปอง จากเพจ Dhammadelivery2559 บนเฟสบุ๊ค ก็จะได้ประมาณ 734,655 คน ถูกใจ และ 837,566 คนติดตาม

สถิตินี้วัดเมื่อ 06-09-2564 จะเห็นว่าพระมหาไพรวัลย์มีคนรู้จักมากกว่าในกลุ่มคนเล่นเฟสบุ๊ค ส่วนสถิติอื่น ผมขี้เกียจค้น เพราะมันไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตผมมากมายกับความดังของมหาทั้งสองท่านนี้

ส่วนความขบขันนั้น ก็น่าจะพอๆ กัน แต่ผมเองไม่ได้ตั้งใจฟังทั้งสอง พส.(พระสงฆ์) เล่นตลก+แทรกคติธรรมหรอกนะ เพราะไอ้เรื่องแบบนี้ ชนคนธรรมดาก็ทำได้ โดยเฉพาะพวกมีอันจะกินร่ำรวยๆ มักชอบพูดและสร้างวาทกรรมหรูๆ แทรกปรัชญาที่หลายคนอาจเข้าไม่ถึงอยู่บ่อยๆ ก็ไม่แปลกอะไรที่พระผู้ซึ่งบวชนานแล้วเวลาจะคุยจะพูด มักชอบแทรกคติธรรม หรือปริศนาธรรมเอาไว้ในคำพูดนั้นๆ ให้คนได้คิดตาม

ในยุคสมัยเก่า ปัจจุบันยังมีในแถบทางภาคเหนือ เค้าเรียกกันว่า “เทศน์ตุ๊จก”

เทศน์ตุ๊จก คืออะไร ทำไมต้องขำ

ภาคเหนือในสมัยก่อน จะมีพระนักเทศน์หลายองค์ ที่มีการเทศน์ไปเสริมมุขขบขันไปสนุกสนาน คล้ายการทอล์คโชว์ หรือเดี่ยวไมโครโฟนสมัยนี้ ต่างจากนักพูดนักเทศน์เป็นพระสงค์ ซึ่งเขาเรียกการเทศน์ลักษณะแบบนี้ “เทศน์ตุ๊จก” หากบ้านไหนวัดไหนมีงานบุญ งานศพ งานใดๆ ก็จะนิมนต์ท่านอาจารย์นักเทศน์ทั้งหลายที่เก่งๆ ไปเทศน์ ในภาคเหนือมีท่านพระอาจารย์ทอง จากวัดแม่ริม เป็นที่นิยมมาก วัดไหนงานไหนมีท่านไปเทศน์ รับรองญาติโยมเต็มศาลา มีทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ เฮฮากันทั้งคืน ได้ทั้งสนุก ทั้งตลกขบขันแต่แฝงคติธรรมข้อคิดในทุกการเทศน์นั้น

ปัจจุบัน การเทศน์แบบตุ๊จกในทางภาคเหนือยังมีการสืบทอดกันอยู่

แต่ในยุคนี้ ใครยังไม่เคยเห็น พส. สององค์ไลฟ์สดแบบตลกขบขันปนธรรมมะสอนใจ มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ อาจจะด้วยเหตุผลหลายประการ

ทำไมพระไลฟ์สดเล่นตลกและแทรกคติธรรม ถึงไม่ควรทำในยุคนี้

ถ้าจากแนวคิดรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย พระควรอยู่ในป่า หรือต้องเป็นผู้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม สำรวมทั้งกาย วาจา ใจ แต่เพราะพระออกมาเล่นตลกแบบนี้เลยไม่สำรวมล่ะมั้ง นี่คือแนวคิดที่ว่าทำไมถึงผิดในสายตาของเหล่าคนแก่อายุมาก ผู้ไม่สามารถตัดขาดจากกิเลสใดๆ

• ไม่สำรวม
• ผิดวินัย ผิดศีล ผิดนโยบายต่างๆ บลาๆ
• ไม่ชอบ

ประมาณนี้แหละ คือไอ้การไม่สำรวมของพระนี่มันมีโทษขนาดไหนผมก็ไม่รู้นะ ส่วนผิดวินัย ผิดศีล หรือนโยบายอะไรก็ไม่รู้อีก แต่มันต้องฟ้องกันเลยรึ ถึงขั้นต้องให้ขาดจากพระก็เกินไปนะ ส่วนเหตุผลข้อสุดท้ายผมว่า สมเหตุสมผลสุดๆ เพราะเท่าที่คิดออก ไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นแล้วนอกจากเรื่องนี้

พระในสายตาคนแก่ มักต้องสำรวมๆ อยู่แต่ในป่า ส่วนอลัชชีเหมาะกับการอยู่เมือง ล่ะมั้ง

ใครเห็นต่างก็มาถกกัน